10 อันดับ แอร์ ยี่ห้อไหนดี 2024

การเลือกเครื่องปรับอากาศ (air conditioner) นั้นส่วนใหญ่จะขึ้นอยู่กับความต้องการและเงื่อนไขของสถานที่ที่คุณต้องการให้เครื่องปรับอากาศทำงาน นอกจากนี้ยังมีปัจจัยอื่น ๆ ที่ควรพิจารณาด้วย เช่น พื้นที่ที่ต้องการปรับอากาศ การใช้งาน, ความประหยัดพลังงาน, และประสิทธิภาพของเครื่อง เพื่อให้ได้ระบบที่เหมาะสมที่สุด นี่คือบางขั้นตอนที่สามารถช่วยในการเลือกเครื่องปรับอากาศ

  1. ขนาดของห้อง: คำนึงถึงพื้นที่ห้องที่ต้องการให้เครื่องปรับอากาศทำงาน โดยมีหน่วยเป็น BTU (British Thermal Units) ซึ่งบอกถึงปริมาณความร้อนที่ต้องการถูกนำออกจากห้องในหนึ่งชั่วโมง ขนาดของเครื่องปรับอากาศควรเหมาะสมกับขนาดของห้องนั้น ๆ

  2. พื้นที่ที่ต้องการปรับอากาศ: หากต้องการปรับอากาศในหลายห้อง หรือในพื้นที่ใหญ่กว่า คุณอาจต้องพิจารณาระบบมัลติโซนหรือระบบท่อแยกตัว

  3. ความประหยัดพลังงาน: เลือกเครื่องที่ได้รับการรับรองว่ามีประสิทธิภาพการใช้พลังงานสูง ที่สามารถช่วยลดค่าไฟฟ้าในระยะยาว

  4. ฟังก์ชั่นพิเศษ: บางเครื่องมีฟังก์ชั่นพิเศษ เช่น การทำความสะอาดอากาศ, การควบคุมความชื้น หรือการทำความเย็นแบบอัจฉริยะ (smart cooling) ที่สามารถควบคุมผ่านโทรศัพท์มือถือ

  5. ค่าใช้จ่าย: พิจารณางบประมาณที่คุณสามารถใช้ได้ รวมถึงต้นทุนการติดตั้ง

  6. ยี่ห้อและความเชื่อถือ: เลือกเครื่องปรับอากาศจากบริษัทที่มีชื่อเสียงและได้รับการรับรองจากผู้ใช้งาน

  7. การบำรุงรักษา: คำนึงถึงความง่ายในการดูแลรักษา เช่น การล้างและเปลี่ยนฟิลเตอร์

  8. ระบบควบคุม: ควรเลือกเครื่องที่มีระบบควบคุมที่ใช้งานง่าย และสามารถปรับแต่งตามความต้องการได้

การคำนึงถึงปัจจัยเหล่านี้จะช่วยให้คุณเลือกเครื่องปรับอากาศที่ตอบสนองต่อความต้องการและสภาพแวดล้อมที่คุณต้องการนำมาใช้งาน

10 อันดับ แอร์ ยี่ห้อไหนดี

1

CARRIER รุ่น COPPER11

2

TOSHIBA รุ่น GEN-Z R32

3

MITSUBISHI HEAVY DUTY

4

SAIJO DENKI รุ่น SMART COOL R32

5

CENTRAL AIR รุ่น IVJS-SERIES R32

6

Hitachi รุ่น Fixed Speed EJ CKT series

7

SAMSUNG เครื่องปรับอากาศ Windfree™

8

Daikin FTKQ_XV2S ปี 2023 MAX Inverter

9

Hisense CD Series

10

Haier Fixed Speed รุ่น EH-09QEM

แอร์ยอดนิยม ขายดี - ประจำเดือน

แบรนด์ดัง แอร์ ยอดนิยม

ความแตกต่างระหว่างแอร์ Inverter และ non-Inverter

ระบบ Inverter และ Non-Inverter เป็นลักษณะการทำงานของเครื่องปรับอากาศ ซึ่งมีความแตกต่างกันในการควบคุมการทำงานและการปรับความเย็นของเครื่อง นี่คือความแตกต่างหลักระหว่างแอร์ Inverter และ non-Inverter

Non-Inverter:

  1. การทำงาน: เครื่อง Non-Inverter มีการทำงานแบบ On/Off หรือตัวเครื่องจะทำงานเต็มที่ (100%) หรือหยุดทำงานทั้งหมด โดยไม่มีการลดความแรงของมอเตอร์

  2. การปรับความเย็น: มีการปรับความเย็นด้วยการเปิด-ปิดคอมเพรสเซอร์ ซึ่งทำให้มีการกระจายความเย็นแบบไม่ต่อเนื่อง

  3. การใช้พลังงาน: มีการใช้พลังงานมากเมื่อทำงานที่เต็มที่ และหยุดทำงานเมื่อไม่ต้องการ

  4. ราคา: มักมีราคาที่ถูกกว่า Inverter

Inverter:

  1. การทำงาน: เครื่อง Inverter มีการควบคุมความเย็นได้แม่นยำ โดยมีการปรับแรงดันของกระแสไฟฟ้าในมอเตอร์

  2. การปรับความเย็น: มีความสามารถในการปรับความเย็นตามความต้องการ และมีการทำงานแบบต่อเนื่อง.การใช้พลังงาน: มีประสิทธิภาพการใช้พลังงานสูงกว่า Non-Inverter เนื่องจากมีความสามารถในการปรับความเย็นได้ตลอดเวลา

  3. ราคา: มักมีราคาที่สูงกว่า Non-Inverter

ข้อควรระวัง:

การเลือก Inverter หรือ Non-Inverter ขึ้นอยู่กับการใช้งานและความต้องการของคุณ ถ้าคุณต้องการประหยัดพลังงานและมีงบประมาณสูงก็อาจจะตัดสินใจเลือก Inverter แต่ถ้าใช้งานไม่บ่อยหรือในสถานที่ที่ไม่ต้องการการควบคุมอุณหภูมิได้มากมายก็อาจจะเลือก Non-Inverter ได้

แม้ว่าเครื่อง Inverter จะมีระบบปรับความเย็นที่มีประสิทธิภาพมากกว่า Non-Inverter แต่ควรพิจารณาถึงความต้องการของการใช้งาน หากใช้งานไม่ต่อเนื่องหรือไม่ใช้งานบ่อย ๆ อาจจะไม่จำเป็นต้องลงทุนในเครื่อง Inverter ที่มีราคาสูง