10 อันดับ แคลมป์มิเตอร์ ยี่ห้อไหนดี 2024

แคลมป์มิเตอร์ (Clamp Meter) คือเครื่องมือที่ใช้สำหรับวัดกระแสไฟฟ้าในสายไฟโดยไม่ต้องตัดต่อวงจร เครื่องมือชนิดนี้มีลักษณะเป็นแคลมป์หรือคีมที่สามารถเปิดออกและปิดเข้ามาห่อหุ้มรอบสายไฟที่ต้องการวัดได้ ความสะดวกของแคลมป์มิเตอร์คือสามารถวัดกระแสไฟฟ้าได้โดยไม่ต้องตัดสายหรือขัดขวางการทำงานของระบบไฟฟ้า

คุณสมบัติหลักของแคลมป์มิเตอร์

  1. วัดกระแสไฟฟ้าแบบ AC/DC: สามารถวัดได้ทั้งกระแสสลับ (AC) และกระแสตรง (DC)
  2. วัดแรงดันไฟฟ้า: นอกจากกระแสไฟฟ้าแล้ว แคลมป์มิเตอร์หลายรุ่นยังสามารถวัดแรงดันไฟฟ้าได้
  3. ความปลอดภัย: ลดความเสี่ยงจากการต้องตัดต่อสายไฟเมื่อเทียบกับวิธีการวัดกระแสไฟฟ้าแบบดั้งเดิม
  4. ความแม่นยำ: แม่นยำเพียงพอสำหรับการตรวจสอบและซ่อมบำรุงระบบไฟฟ้า

10 อันดับ แคลมป์มิเตอร์ ยี่ห้อไหนดี

1

HIOKI AC Clamp Meter รุ่น CM3289

2

HABOTEST แคลมป์มิเตอร์ รุ่น HT206

3

KYORITSU แคลมป์มิเตอร์ รุ่น KT 203

4

Aneng Digital Clamp Meter รุ่น ST180

5

Deli Digital Clamp Meter

6

HABOTEST แคลมป์มิเตอร์ รุ่น HT205

7

Kyoritsu แคลมป์มิเตอร์ KT200

8

UNI-T แคลมป์มิเตอร์ รุ่น UT204+

9

Total แคลมป์มิเตอร์ รุ่น TMT42002

10

LUZINO แคลมป์มิเตอร์ รุ่น EM4351

แคลมป์มิเตอร์ ยอดนิยม ขายดี - ประจำเดือน

แบรนด์ดัง แคลมป์มิเตอร์ ยอดนิยม

คำแนะนำในการเลือกซื้อแคลมป์มิเตอร์

1. วัตถุประสงค์การใช้งาน

  • กระแสไฟฟ้า AC/DC: ตรวจสอบว่าแคลมป์มิเตอร์สามารถวัดกระแสไฟฟ้าสลับ (AC) และกระแสไฟฟ้าตรง (DC) ได้หรือไม่ ถ้าคุณต้องการวัดทั้งสองประเภท
  • แรงดันไฟฟ้าและฟังก์ชั่นอื่นๆ: หากต้องการวัดแรงดันไฟฟ้า, ความต้านทาน, ความถี่ หรือฟังก์ชั่นอื่นๆ ตรวจสอบว่าแคลมป์มิเตอร์มีฟังก์ชั่นเหล่านี้

2. ช่วงการวัด

  • กระแสไฟฟ้า: ตรวจสอบช่วงการวัดของแคลมป์มิเตอร์ว่าสามารถวัดกระแสไฟฟ้าในช่วงที่ต้องการได้หรือไม่
  • แรงดันไฟฟ้า: ตรวจสอบช่วงการวัดแรงดันไฟฟ้าของแคลมป์มิเตอร์

3. ความแม่นยำและความละเอียด

  • ความแม่นยำ: ตรวจสอบค่าความคลาดเคลื่อนของแคลมป์มิเตอร์ ค่าที่ต่ำกว่าหมายถึงความแม่นยำที่สูงกว่า
  • ความละเอียด: ความละเอียดของการแสดงผลสามารถบอกถึงค่าที่ละเอียดได้เพียงใด เช่น สามารถอ่านค่าได้ถึงจุดทศนิยมเท่าไร

4. ความสะดวกในการใช้งาน

  • หน้าจอแสดงผล: หน้าจอควรมีขนาดใหญ่พอและอ่านง่าย อาจมีไฟแบ็คไลท์สำหรับการใช้งานในที่มืด
  • ขนาดและน้ำหนัก: แคลมป์มิเตอร์ควรมีขนาดพอเหมาะและน้ำหนักเบาเพื่อความสะดวกในการพกพาและใช้งาน

5. ความปลอดภัย

  • มาตรฐานความปลอดภัย: ตรวจสอบว่าแคลมป์มิเตอร์ได้รับการรับรองมาตรฐานความปลอดภัย เช่น CAT III หรือ CAT IV สำหรับการใช้งานในสถานที่ที่มีความเสี่ยงสูง
  • ฟิวส์ป้องกัน: บางรุ่นมีฟิวส์ป้องกันการใช้งานเกินขอบเขตเพื่อความปลอดภัยเพิ่มเติม

6. แบรนด์และการรับประกัน

  • แบรนด์ที่น่าเชื่อถือ: เลือกซื้อจากแบรนด์ที่มีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จักในตลาด
  • การรับประกัน: ตรวจสอบระยะเวลาการรับประกันและเงื่อนไขการรับประกัน

7. ราคา

  • งบประมาณ: ตั้งงบประมาณที่เหมาะสมและเปรียบเทียบราคากับฟังก์ชั่นที่ต้องการ
  • ความคุ้มค่า: พิจารณาความคุ้มค่าในการลงทุน โดยไม่จำเป็นต้องซื้อรุ่นที่มีฟังก์ชั่นเกินความจำเป็น