10 อันดับ เครื่องอบผ้า ยี่ห้อไหนดี

การเลือกซื้อเครื่องอบผ้า (dryer) ควรพิจารณาปัจจัยต่าง ๆ เพื่อให้คุณเลือกเครื่องที่เหมาะสมกับความต้องการและความเหมาะสมของคุณ. นี่คือขั้นตอนและปัจจัยที่ควรพิจารณา:

  1. ขนาดและความจุ: เลือกเครื่องอบผ้าที่มีขนาดและความจุเหมาะสมกับปริมาณผ้าที่คุณซักประจำ ความจุของเครื่องอบผ้ามักถูกบอกในหน่วยปอนด์ (pound) หรือกิโลกรัม (kilogram) ซึ่งบอกถึงปริมาณผ้าที่เครื่องสามารถรับได้ในแต่ละรอบการอบ.

  2. การปรับระดับความร้อน: ควรเลือกเครื่องที่มีตัวควบคุมอุณหภูมิที่แม่นยำและสามารถปรับความร้อนตามประเภทของผ้าที่คุณอบได้ เพื่อป้องกันการเสียหายแก่ผ้าที่อบ.

  3. ความปลอดภัย: ควรตรวจสอบว่าเครื่องอบผ้ามีระบบป้องกันการกลายเป็นไฟฟ้าสถิต (grounding) และระบบป้องกันอื่น ๆ เพื่อป้องกันความเสี่ยงต่อการช็อตไฟฟ้าสถิต.

  4. การประหยัดพลังงาน: เลือกเครื่องอบผ้าที่มีคุณสมบัติที่ช่วยประหยัดพลังงาน เช่นการตั้งเวลาการอบหรือความสามารถในการตรวจจับความชื้นและหยุดเมื่อผ้าสุกพอ.

  5. ราคา: ต้องพิจารณางบประมาณที่คุณสามารถใช้ได้ในการซื้อเครื่องอบผ้า ราคาของเครื่องอบผ้าสามารถแตกต่างกันอย่างมากตามคุณสมบัติและยี่ห้อ.

  6. ความเงียบ: หากคุณใช้เครื่องอบผ้าในบ้านหรืออาศัยอยู่ในหอพัก ควรพิจารณาเครื่องที่ทำงานเงียบเพื่อไม่ทำให้รบกวนผู้อื่น.

  7. ความพิเศษ: บางรุ่นของเครื่องอบผ้ามีความพิเศษเพิ่มเติม เช่น ฟังก์ชันการควบคุมด้วยมือ, โหมดการอบเสียดาย (delicate), หรือโหมดการอบอนุบาลผ้า.

  8. ยี่ห้อและความเป็นมาตรฐาน: เลือกเครื่องจากยี่ห้อที่มีความเชื่อถือได้และมีความเป็นมาตรฐานสูง เพื่อความพึงพอใจและความคงทนของผลิตภัณฑ์.

  9. ความเหมาะสมกับพื้นที่: ตรวจสอบว่าเครื่องอบผ้าที่คุณสนใจมีขนาดที่เหมาะสมกับพื้นที่ในห้องซักผ้าของคุณ.

  10. การรับประกัน: ควรตรวจสอบระยะเวลารับประกันของเครื่องอบผ้าและรายละเอียดเงื่อนไขการรับประกันให้แน่ใจว่าคุณมีการคุ้มครองในกรณีของปัญหาหรือความเสียหาย.

การเลือกซื้อเครื่องอบผ้าควรพิจารณาข้อดีและข้อจำกัดของแต่ละรุ่น และเปรียบเทียบราคาและคุณสมบัติเพื่อทำให้คุณตัดสินใจได้ถูกต้องตามความต้องการและงบประมาณของคุณ.

10 อันดับ เครื่องอบผ้า 2024 ยี่ห้อไหนดี

1

เครื่องอบผ้า 7.5 กิโล ELECTROLUX รุ่น EDV754H3WB

2

TOSHIBA เครื่องอบผ้า TD-H80SET 7 กก

3

HAIER เครื่องอบผ้า รุ่น HDV70E1 ขนาด 7 กก

4

XIAOLANG Heater Dryer เครื่องอบผ้าขนาด 14/35/60 L

5

LG เครื่องซักอบผ้าฝาหน้า FV1413H4M 13/8 กก.

6

SAMSUNG เครื่องซักอบ รุ่นฝาหน้า รุ่น WD21B6400KV/ST 21/12 กก.

7

Electrolux เครื่องอบผ้า UltimateCare 300 ขนาด 8.5 กก. Venting รุ่น EDS854J3WB

8

TCL WASH & DRY เครื่องอบผ้าซัก 10Kg. อบ 7Kg. รุ่น WT11EPWDG

9

Toshiba เครื่องอบผ้า 7KG รุ่น TD-K90MET

10

Beko เครื่องอบผ้าฝาหน้า 8 กก. รุ่น DA8112PX0W

แบรนด์ดัง เครื่องอบผ้า ยอดนิยม

Electrolux EDS854J3WB
Electrolux EDV754H3WB
Electrolux EDS854N3SB
Beko DA8112PX0W
Beko DU10133GA0W
Beko DA8112RX0W
Bosch WQG24200TH
Bosch WQG245A0TH
Bosch WNA254U0TH
TOSHIBA TD-H80SET
TOSHIBA TD-K90MET
TOSHIBA TD-BK110GHT

เครื่องอบผ้า by Power Buy

เครื่องอบผ้า By Lotus’s

เครื่องอบผ้า By HomePro

เครื่องอบผ้า ยอดนิยม ขายดี - ประจำเดือน

1. Electrolux เครื่องอบผ้า UltimateCare 300 ขนาด 8.5 กก. Venting รุ่น EDS854J3WB

2. HAIER เครื่องอบผ้า รุ่น HDV70E1 ขนาด 7 กก

3. TCL WASH & DRY เครื่องอบผ้าซัก 10Kg. อบ 7Kg. รุ่น WT11EPWDG

4. LG เครื่องซักอบผ้าฝาหน้า FV1413H4M 13/8 กก.

5. Beko DA9112RX0W เครื่องอบผ้า Vent 9 กก. + ขาตั้ง

ข้อดีของการเลือกใช้ เครื่องอบผ้า ที่ต้องรู้ :

การเลือกใช้เครื่องอบผ้า (dryer) มีข้อดีหลายประการที่อาจช่วยให้คุณสะดวกสบายมากขึ้นในการดูแลผ้าของคุณ นี่คือข้อดีของการใช้เครื่องอบผ้า:

  1. ประหยัดเวลา: เครื่องอบผ้าช่วยลดเวลาการอบผ้ามาก เซ็ตเครื่องให้ทำงานแล้วคุณสามารถทำกิจกรรมอื่นได้ในระหว่างที่ผ้ากำลังถูกอบ.

  2. ประหยัดพื้นที่: คุณไม่จำเป็นต้องแขวนผ้าในพื้นที่แห่งหนึ่งเพื่อให้มีอากาศถ่ายเทได้ ซึ่งช่วยประหยัดพื้นที่ในห้องซักผ้าของคุณ.

  3. ผ้ามีกลิ่นหอม: เครื่องอบผ้ามักมีฟังก์ชันที่ช่วยให้ผ้ามีกลิ่นหอมและสดชื่นหลังจากการอบ ซึ่งเป็นประโยชน์มากในกรณีผ้าซักมากหรือผ้าที่ต้องการกลิ่นหอมพิเศษ.

  4. การประหยัดพลังงาน: การใช้เครื่องอบผ้าในสถานที่ที่มีความคงความชื้นในอากาศลดลง อาจช่วยประหยัดพลังงานการใช้งานเมื่อเทียบกับการแขวนผ้าในพื้นที่อากาศแห่งหนึ่ง.

  5. ความปลอดภัย: การใช้เครื่องอบผ้าอาจช่วยลดความเสี่ยงต่อการสะเทือนไฟฟ้าสถิตหรือการนอนไม่ดีเนื่องจากการแขวนผ้าในห้องนอน.

  6. ผ้าไม่ต้องแขวนด้านนอก: คุณไม่จำเป็นต้องแขวนผ้านอกห้องเพื่อให้แดดและลมธรรมชาติแห่งลมปั่นถ่ายเทผ่าน เหมาะสำหรับสถานที่ที่มีปัญหาสภาพอากาศหรือพื้นที่จำกัด.

  7. ผ้าไม่เสียหาย: เครื่องอบผ้ามักมีการตั้งค่าอบที่อ่อนนุ่มต่อผ้า ทำให้ไม่เกิดการเสียหายจากการอบที่รุนแรง.

  8. การปรับเปลี่ยนความร้อน: คุณสามารถปรับระดับความร้อนในเครื่องอบผ้าเพื่อให้เหมาะกับประเภทผ้าที่คุณอบ, เช่นผ้าที่ต้องการความร้อนมากหรือน้อยกว่า.

  9. ความสะดวกสบาย: เครื่องอบผ้าช่วยให้คุณมีความสะดวกสบายมากขึ้นในการดูแลผ้าและลดภาระงานในการทำความสะอาด.

  10. ความแม่นยำ: เครื่องอบผ้ามักมีตั้งค่าเวลาและอุณหภูมิที่แม่นยำ ทำให้คุณมั่นใจได้ว่าผ้าของคุณจะอบให้สมบูรณ์และสดใส.

การเลือกใช้เครื่องอบผ้าอย่างถูกต้องสามารถช่วยให้คุณประหยัดเวลาและพลังงาน และดูแลผ้าของคุณอย่างเหมาะสมมากขึ้น แต่ควรจำไว้ว่าบางประเภทของผ้าอาจไม่เหมาะสมกับการอบด้วยความร้อนสูง ดังนั้นควรอ่านคู่มือการใช้งานและปฏิบัติตามคำแนะนำของผู้ผลิตเสมอ.