10 อันดับ สเปรย์กันแดด ยี่ห้อไหนดี 2024

       สเปรย์กันแดด (sunscreen spray) เป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในการป้องกันผิวจากรังสี UV ของดวงอาทิตย์ ซึ่งอาจทำให้ผิวหนังเกิดการไหม้ หรือเกิดปัญหาผิวอื่นๆ เช่น ริ้วรอยก่อนวัยหรือมะเร็งผิวหนัง สเปรย์กันแดดมีลักษณะเป็นละอองที่สามารถฉีดพ่นบนผิวได้อย่างง่ายดาย ซึ่งช่วยให้การทากันแดดสะดวกและรวดเร็ว

       โดยทั่วไป สเปรย์กันแดดจะมีค่า SPF (Sun Protection Factor) ที่บ่งบอกถึงระดับการป้องกันรังสี UVB ซึ่งเป็นตัวการหลักที่ทำให้ผิวหนังไหม้ นอกจากนี้ยังมีการป้องกันรังสี UVA ซึ่งสามารถทำให้เกิดความเสียหายลึกกว่า

       วิธีการใช้งานสเปรย์กันแดดคือการฉีดพ่นให้ทั่วผิวหนังที่ต้องการป้องกัน โดยควรทาในปริมาณที่เพียงพอและควรทาซ้ำทุก 2 ชั่วโมง หรือหลังจากการว่ายน้ำหรือเหงื่อออกมาก

       ข้อดีของสเปรย์กันแดด

  • ใช้ง่ายและรวดเร็ว: เพียงแค่ฉีดพ่นก็สามารถปกป้องผิวได้ทั่วถึง โดยเฉพาะบริเวณที่ทาครีมยาก เช่น หลัง หรือบริเวณเส้นผม
  • แห้งเร็ว: ไม่เหนียวเหนอะหนะ เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ชอบความรู้สึกหนักๆ บนผิว
  • บางเบา: ไม่ทำให้รู้สึกอึดอัด เหมาะสำหรับการแต่งหน้าทับ
  • มีให้เลือกหลากหลาย: ทั้งสูตรกันน้ำ, สูตรสำหรับผิวแพ้ง่าย, สูตรสำหรับกิจกรรมกลางแจ้ง

10 อันดับ สเปรย์กันแดด ยี่ห้อไหนดี

1

Skintific Sunscreen Spray ออลเดย์ไลท์ SPF50+ PA++++

2

Papa Feel Sunscreen Spray ออลเดย์ไลท์ SPF50+ PA++++

3

YOU Sunbrella Airy Outdoor Sunscreen Spray SPF 50+ PA ++++

4

Nu Formula Crystal Sun Spray Real SPF50+ PA++++

5

La Roche-Posay Anthelios Invisible Fresh Mist Anti-Shine SPF 50

6

Claire Invisible Sun Spray

7

KA UV Extreme Protection Spray SPF50+ PA++++

8

Biore UV Aqua Rich Aqua Protect Mist SPF 50 PA++++

9

Anessa เพอร์เฟค ยูวี ซันสกรีน สกินแคร์ สเปรย์ NA SPF50+ PA++++

10

Cathy Doll อัลตร้าไลท์ซันมิสท์ เอสพีเอฟ50+ พีเอ++++

สเปรย์กันแดด ขายดี - ประจำเดือน

แบรนด์ดัง สเปรย์กันแดด ยอดนิยม

คำแนะนำในการเลือกซื้อ สเปรย์กันแดด

  • ค่า SPF (Sun Protection Factor):

    • เลือกสเปรย์ที่มีค่า SPF อย่างน้อย 30 ซึ่งจะปกป้องผิวจากรังสี UVB ได้อย่างดี สำหรับการทำกิจกรรมกลางแจ้งที่ต้องเผชิญแสงแดดมาก ควรเลือกค่า SPF ที่สูงขึ้น เช่น 50 หรือ 60
  • การปกป้องทั้ง UVB และ UVA:

    • ควรเลือกสเปรย์กันแดดที่มีคำว่า “Broad Spectrum” ซึ่งหมายถึงการปกป้องทั้งรังสี UVB และ UVA ซึ่งสามารถป้องกันความเสียหายลึกและลดความเสี่ยงจากมะเร็งผิวหนัง
  • ประเภทผิวและความต้องการ:

    • หากคุณมีผิวแพ้ง่าย ควรเลือกสเปรย์กันแดดที่ไม่มีน้ำหอมและสารเคมีที่อาจระคายเคือง
    • สำหรับผู้ที่มีผิวมันหรือเป็นสิวง่าย ควรเลือกสูตรที่ไม่มีน้ำมัน (oil-free) หรือสูตรที่ช่วยควบคุมความมัน
  • การทนน้ำและเหงื่อ:

    • หากคุณมีกิจกรรมที่ต้องสัมผัสน้ำหรือเหงื่อ เช่น การว่ายน้ำหรือการออกกำลังกาย ควรเลือกสเปรย์กันแดดที่ระบุว่าทนน้ำและเหงื่อ (water-resistant)
  • ส่วนผสม:

    • ตรวจสอบส่วนผสมของสเปรย์กันแดดเพื่อหลีกเลี่ยงสารที่อาจทำให้เกิดอาการแพ้หรือระคายเคือง เช่น พาราเบน (parabens) และซัลเฟต (sulfates)
  • การใช้งานและความสะดวก:

    • เลือกสเปรย์ที่ใช้งานง่าย เช่น การพ่นที่ให้ละอองกระจายดี สามารถเข้าถึงพื้นที่ที่ยากต่อการทาแบบโลชั่น
  • อายุการใช้งาน:

    • ตรวจสอบวันหมดอายุของสเปรย์กันแดด และหากหมดอายุแล้วไม่ควรใช้ เนื่องจากประสิทธิภาพในการป้องกันอาจลดลง