ในยุคที่เทคโนโลยีก้าวกระโดดไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วทุกวันนี้ หูฟังบลูทูธ (Bluetooth headphones) กลายเป็นอุปกรณ์ที่สำคัญและได้รับความนิยมอย่างกว้างขวาง การใช้งานหูฟังบลูทูธสามารถพูดได้ว่าเป็นเรื่องสะดวกสบายและเพิ่มประสบการณ์ในการฟังเพลงหรือรับฟังเสียงจากอุปกรณ์ต่างๆ ในชีวิตประจำวันของเรา หูฟังบลูทูธมีความสามารถที่จะเชื่อมต่อได้กับอุปกรณ์พกพาหลายแบบ เช่น สมาร์ทโฟน (smartphones) แท็บเล็ต (tablets) คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ค (laptops) และอุปกรณ์อื่นๆ ที่มีการสนับสนุนเทคโนโลยีบลูทูธ การเชื่อมต่อไร้สายช่วยให้เราสามารถเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระ โดยไม่ต้องมีสายที่ขัดขวางหรือผูกพันอุปกรณ์กับตัวเรา นอกจากนี้ยังสามารถควบคุมการเล่นเพลงหรือปรับระดับเสียงได้โดยตรงผ่านทางหูฟัง ทำให้เราสามารถเพลิดเพลินไปกับเพลงที่ชื่นชอบอย่างแท้จริงได้อย่างไม่มีข้อจำกัด หูฟังบลูทูธก็ได้รับการพัฒนาเป็นอย่างดีในเรื่องของคุณภาพเสียง หูฟังแบบไร้สายสมัยก่อนบางครั้งอาจมีปัญหาเกี่ยวกับคุณภาพเสียงที่ไม่ค่อยดี แต่ในปัจจุบันหูฟังบลูทูธได้รับการพัฒนาให้มีเทคโนโลยีที่ทันสมัยและให้ประสบการณ์การฟังที่ดีกว่ามากขึ้น ซึ่งมีการใช้งานร่วมกับเทคโนโลยีเสียงระดับสูงเช่น การรองรับระบบเสียงไร้สายที่มีความถี่กว้างและความเสถียรสูง รวมถึงการใช้งานร่วมกับระบบเสียงเสมือนจริง (virtual surround sound) ซึ่งช่วยสร้างประสบการณ์ฟังเพลงหรือรับฟังเสียงจากหนังในรูปแบบที่สมจริงมากขึ้น ซึ่งทาง dosinka.com ก็ได้รวบรวม 10 อันดับหูฟังบลูทูธ 2023 ยี่ห้อไหนดี ที่ได้รับความนิยม พร้อมกับช่องการซื้อไว้ให้แล้ว
10 หูฟังบลูทูธ 2024 ยี่ห้อไหนดี
1. Marshall Minor III True Wireless
- BLUETOOTH 5.2 เชื่อมต่อไร้สายด้วยเทคโนโลยยี 5.2
- ใช้งานต่อเนื่องได้ 25 ชั่วโมงต่อการชาร์จ 1 ครั้ง
- ไดรเวอร์ที่ปรับแต่งอย่างดี 12 มม.มอบเสียงดังและชัดเจน
- ควบคุมเสียงเพลงและสายโทรเข้า - ออกของคุณโดยง่ายเพียงสัมผัส
- ดีไซน์สวยดูล้ำสมัย
หูฟังบลูทูธ Marshall Minor III True Wireless เป็นหูฟังไร้สายที่มีความสะดวกสบายในการใช้งาน เนื่องจากไม่ต้องมีสายที่รบกวนหรือขัดขวางการใช้งาน และมีลักษณะดีไซน์ที่สวยงาม โดยใช้สีดำและทองเป็นโทนหลัก ในด้านของคุณภาพเสียง หูฟังบลูทูธ Marshall Minor III True Wireless มีเสียงที่คมชัดและมีความลึกของเสียง รวมถึงมีการดีไซน์ของไดร์เวอร์ที่สามารถเสียงเพลงได้อย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังมีสัดส่วนแบบ EQ ที่ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถปรับเสียงให้ตรงตามต้องการได้อีกด้วย มีระบบควบคุมที่อยู่บนหูฟังเอง ทำให้ผู้ใช้งานสามารถควบคุมการใช้งานได้ง่ายๆ และยังมีฟังก์ชัน Touch
2. Apple airpods 3
- AirPods นั้นมีน้ำหนักเบาและมาในขนาดกระชับพอดีในรูปทรงโค้งมน
- ทำมุมได้ลงตัวพอดีกับหู ทำให้ทั้งใส่สบายและเสียงเข้าสู่หูของคุณได้ดียิ่งขึ้น
- มีเซ็นเซอร์แรงกดเพื่อให้คุณควบคุมเสียงดนตรีและการโทรได้อย่างง่ายดาย
- ระบบเสียงตามตำแหน่งพร้อมการติดตามศีรษะแบบไดนามิกเพื่อประสบการณ์การฟังในแบบสามมิติที่เต็มอิ่มสมจริง
- คุณภาพเสียงอันน่าทึ่งพร้อม EQ แบบปรับได้เอง
- เคสชาร์จ Lightning สามารถชาร์จผ่านช่องต่อ Lightning ได้
- ตั้งค่ากับอุปกรณ์ Apple ทั้งหมดของคุณได้ง่ายๆ
หูฟังบลูทูธ Apple AirPods 3 เป็นหูฟังไร้สายที่ออกแบบมาให้เหมาะกับผู้ใช้งานอย่างแท้จริง โดยมีลักษณะดีไซน์ที่เรียบง่ายแต่สวยงาม ซึ่งจะช่วยเพิ่มความมั่นใจในการใช้งานของผู้ใช้งาน ด้านของคุณภาพเสียง หูฟังบลูทูธ Apple AirPods 3 มีเสียงที่คมชัดและมีความลึกของเสียงที่ดี โดยมีการปรับแต่งความสูงและความต่ำของเสียงได้โดยอัตโนมัติ อีกทั้งยังมีระบบป้องกันเสียงรบกวนจากสิ่งแวดล้อมภายนอกอีกด้วย มีระบบเชื่อมต่อไร้สายที่เร็วและมีความเสถียร นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชันการควบคุมด้วยการแตะเบาๆ บนหูฟัง เพื่อทำการควบคุมการเปิด-ปิดหรือเปลี่ยนเพลงได้อย่างสะดวก
3. SONY WF-LS900N LinkBuds
- ถูกออกแบบให้มีขนาดเล็กและน้ำหนักเบา สวมใส่สบายตลอดทั้งวัน โดยไม่รู้สึกอึดอัด
- มาพร้อมฟังก์ชั่น Active Noise Cancelling (ANC) ที่มีประสิทธิภาพสูง ช่วยให้การฟังเพลงและการพูดคุยชัดเจนโดยไม่ถูกรบกวนจากเสียงภายนอก
- พร้อมเทคโนโลยี Adaptive Sound Control ที่ปรับระดับเสียงรบกวนตามสภาพแวดล้อมโดยอัตโนมัติ
- สามารถเปิดโหมดรับเสียงภายนอกได้ ทำให้ผู้ใช้สามารถได้ยินเสียงรอบข้าง เช่น เสียงการจราจรหรือเสียงสนทนาได้อย่างชัดเจน
- รองรับ เสียง Hi-Res Audio ที่ให้คุณภาพเสียงที่ละเอียดและคมชัด ด้วยเทคโนโลยี LDAC สำหรับการส่งข้อมูลเสียงความละเอียดสูงผ่านบลูทูธ
Sony WF-LS900N หรือที่รู้จักกันในชื่อ LinkBuds S เป็นหูฟังไร้สายที่ออกแบบมาเพื่อความสะดวกสบายในการใช้งาน พร้อมคุณสมบัติที่ตอบโจทย์การใช้งานในชีวิตประจำวัน รุ่นนี้มาพร้อมกับฟังก์ชั่นการเชื่อมต่อที่เสถียรและเสียงคุณภาพสูง ด้วยเทคโนโลยี Adaptive Sound Control ที่ปรับการตัดเสียงรบกวนและการรับเสียงจากภายนอกให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมต่างๆ ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้ได้ประสบการณ์ฟังเพลงที่คมชัดและมีความสมดุลมากขึ้น นอกจากนี้ยังมีดีไซน์ที่เบาและกะทัดรัด ทำให้ใส่สบายตลอดทั้งวัน และสามารถใช้งานได้ยาวนานต่อเนื่อง พร้อมทั้งรองรับการควบคุมด้วยเสียงและการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ต่างๆ ได้อย่างง่ายดาย
4. Klipsch T5 II ANC True Wireless
- Bluetooth 5.0
- กันน้ำและกันฝุ่นมาตรฐาน IPX4 (เฉพาะหูฟัง)
- หูฟังบลูทูธตัดเสียงรบกวน
- การตอบสนองความถี่ 10Hz-19kHz
- Dynamic Moving Coil ขนาด 5.8 มิลลิเมตร
- ไมโครโฟน 6 ตัว แบบ Beamforming
- จุกหูฟังแบบ Over Ear Tips 6 ไซส์
- มีแท่นชาร์จที่สามารถชาร์จได้ 2 ตำแหน่ง
- เทคโนโลยี Bragi Moves
หูฟังบลูทูธ Klipsch T5 II ANC True Wireless เป็นหูฟังไร้สายที่มาพร้อมกับฟังก์ชันการลดเสียงรบกวนแบบ Active Noise Cancellation (ANC) ซึ่งช่วยให้เสียงที่ได้รับมามีความชัดเจนและแม่นยำมากขึ้น นอกจากนี้ยังมีการออกแบบเพื่อให้สามารถใช้งานได้สบายๆ นานถึง 7 ชั่วโมงโดยไม่ต้องเสียเวลาในการชาร์จหรือเปลี่ยนแบตเตอรี่ เสียงของหูฟังบลูทูธ Klipsch T5 II ANC True Wireless มีคุณภาพเป็นอย่างมาก มีความลึกและความเป็นจริงของเสียงที่สร้างสรรค์มาอย่างดี ให้เสียงแหลมคมและเสียงเบสที่แน่นหนาและหมดจด นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชัน Ambient mode ที่ช่วยให้ผู้ใช้งานได้ยินเสียงและเสียงรบกวนจากสิ่งแวดล้อมรอบข้างได้อย่างชัดเจน มีการออกแบบสไตล์ที่ไม่เหมือนใคร โดยมีตัวหูฟังที่ออกแบบด้วยโลหะและมีการตกแต่งด้วยเครื่องหมายที่เป็นเอกลักษณ์ของ Klipsch ซึ่งทำให้หูฟังดูมีความเป็นผู้ใช้งานเฉพาะตัว
5. JBL Tune Flex
- Bluetooth 5.2
- ไดรเวอร์ขนาด 6.0 มม.
- Active Noise Cancelling ตัดเสียงรบกวนด้วย Smart Ambient
- ไมโครโฟน 4 ตัว เพื่อการโทรที่สมบูรณ์แบบ
- อายุการใช้งานแบตเตอรี่สูงสุด 40 ชั่วโมง
- IPX4 กันน้ำและกันเหงื่อ
- การออกแบบ Stick Closed ช่วยให้รู้สึกสบายโดยไม่กดดัน
JBL Tune Flex เป็นหูฟังบลูทูธที่มีความสามารถพิเศษในการเปลี่ยนการใช้งานระหว่าง In Ear และ Earbud ในตัวเดียวกัน ซึ่งให้ความยืดหยุ่นในการใช้งานตามความสะดวกและความต้องการของผู้ใช้ หูฟังรุ่นนี้มาพร้อมกับฟังก์ชั่นตัดเสียงรบกวน (Active Noise Cancelling) ช่วยให้ผู้ใช้สามารถฟังเพลงหรือรับฟังเสียงได้อย่างคมชัดโดยไม่ถูกรบกวนจากเสียงภายนอก นอกจากนี้ยังรองรับการเชื่อมต่อบลูทูธที่เสถียร ทำให้การใช้งานสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น พร้อมด้วยดีไซน์ที่มีความทันสมัยและวัสดุที่ทนทาน เหมาะสำหรับการใช้งานในทุกสถานการณ์
6. Soundcore by Anker Liberty 4 NC
- ออกแบบมาเพื่อประสิทธิภาพการตัดเสียงรบกวนที่เหนือกว่า พร้อมอัลกอริทึ่มที่จะวิเคราะห์การฟังของคุณพร้อมตัดเสียงรบกวนในแบบเรียลไทม์
- คุณภาพเสียงจากไดร์เวอร์ขนาด11 มม.ที่ทรงพลัง เสียงเบสที่หนักแน่นและเสียงแหลมที่เคลียร์ใส พร้อมAdaptive EQ ที่จะปรับเสียงให้เหมาะกับคุณ
- ด้วยคุณภาพเสียงระดับ Hi-Res Wireless ที่และการส่งสัญญาณเสียงแบบ LDAC ให้สัญญาณเคลียร์ชัด ไม่พลาดทุกรายละเอียด
- ใช้งานต่อเนื่องได้นานถึง 10 ชั่วโมง และชาร์จต่อจากเคสได้ 50 ชั่วโมง พร้อมฟังก์ชั่นการชาร์จเร็ว ชาร์จเพียง 10 นาที ใช้งานต่อได้ถึง 4 ชั่วโมง
- คุยชัด เสียงเคลียร์กว่า ด้วย beamforming microphone ถึง 6 ตัว พร้อม AI ลดเสียงรบกวน ให้ทุกการสนทนาชัดใส ไม่สะดุด แม้สภาวะรอบตัวไม่เป็นใจ
Soundcore by Anker Liberty 4 NC เป็นหูฟังบลูทูธไร้สายที่มาพร้อมกับฟังก์ชั่นตัดเสียงรบกวน (Noise Cancellation) ที่สามารถลดเสียงรบกวนได้ถึง 98.5% ช่วยให้ผู้ใช้ได้รับประสบการณ์ฟังเพลงที่มีความชัดเจนและสงบมากขึ้น โดยไม่ถูกรบกวนจากเสียงภายนอก รุ่นนี้รองรับ Hi-Res Audio ให้คุณภาพเสียงที่คมชัดและมีความละเอียดสูง เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการฟังเพลงในระดับเสียงที่ดีที่สุด ด้วยเทคโนโลยี Bluetooth 5.3 ที่ช่วยให้การเชื่อมต่อมีความเสถียรและลดการดีเลย์ระหว่างการใช้งาน ส่วนการออกแบบเน้นความสะดวกสบายในการใช้งานด้วยดีไซน์ที่เบาและสวมใส่ได้สบายตลอดทั้งวัน
7.Xiaomi Redmi Buds 6 Lite
- ระบบตัดเสียง : มาพร้อมไมโครโฟนในตัว เพื่อลดเสียงรอบข้างในขณะสนทนา
- ระยะเวลาในการชาร์จ : ประมาณ 90 นาที รองรับ Fast Charge ชาร์จ 10 นาที ใช้งานได้ 110 นาที
- ควบคุมด้วยระบบสัมผัส : แตะ 2 ครั้งเพื่อหยุดหรือเล่นเพลง / แตะ 3 ครั้งเพื่อเล่นเพลงต่อไป หรือตัดสายสนทนา /
- มีโหมด Low-Latency Mode เพื่อให้ภาพและเสียงตรงกันมากขึ้นในขณะเล่นเกมหรือดูหนัง
- รองรับ Google Fast Pair เพื่อเชื่อมต่อหูฟังได้ง่ายมากขึ้นเมื่อใช้งานกับอุปกรณ์ที่ใช้ระบบแอนดรอยด์
- รองรับการใช้งานได้นานสูงสุด 5 ชั่วโมง และ 20 ชั่วโมงเมื่อใช้งานร่วมกับเคสชาร์จ
- มาตรฐานการกันน้ำ : กันน้ำระดับ IPX4 สามารถใส่ออกกำลังกายได้
Xiaomi Redmi Buds 6 Lite/6 Active เป็นหูฟังบลูทูธไร้สายที่ออกแบบมาให้มีฟีเจอร์ครบครันในราคาย่อมเยา มาพร้อมกับระบบตัดเสียงรบกวน (Noise Reduction) ในขณะสนทนา ทำให้การโทรศัพท์ชัดเจนยิ่งขึ้น โดยลดเสียงรบกวนจากภายนอกได้อย่างมีประสิทธิภาพ การเชื่อมต่อบลูทูธที่เสถียร ทำให้การใช้งานสะดวกสบายและไม่สะดุด ไม่ว่าจะเป็นการฟังเพลงหรือการรับสายโทรศัพท์ นอกจากนี้ยังรองรับการใช้งานที่ยาวนาน โดยสามารถเล่นเพลงได้ต่อเนื่องเป็นเวลานาน ซึ่งเหมาะสำหรับการใช้ในกิจกรรมต่างๆ เช่น การออกกำลังกายหรือเดินทาง
8. Samsung Galaxy Buds2 Pro
- สามารถรองรับเสียงเพลงคุณภาพและความละเอียดสูง ระดับ 24-bit
- เติมเต็มประสบการณ์ฟังเสียงที่เสมือนจริงไร้การบิดเบือน
- ความเร็วรอบ 8500 rpm
- หางตัดหญ้าขนาด 26 มม.
- ไม่ต้องใช้น้ำมัน ไม่ต้องเติมน้ำมันเครื่อง
- สะดวกสบาย ใช้งานง่าย ดูแลรักษาง่าย
- น้ำหนักเบา อายุการใช้งานยาวนาน
- น้ำหนัก 5 กิโลกรัม
Samsung Galaxy Buds2 Pro เป็นหูฟังไร้สายที่ออกแบบมาสำหรับผู้ใช้งานที่ต้องการคุณภาพเสียงที่ดีและความสะดวกสบายในการใช้งาน ด้วยการออกแบบที่เรียบง่ายและเหมาะสำหรับการใช้งานในทุกๆ สถานการณ์ มีการพัฒนาเทคโนโลยี Active Noise Cancelling (ANC) ที่ช่วยลดเสียงรบกวนจากสิ่งแวดล้อมภายนอก และยังมี Ambient Sound Mode ที่ช่วยเปิดการรับฟังเสียงรบกวนจากสิ่งแวดล้อมภายนอกเพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถเข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นรอบตัวได้มากขึ้น ดังนั้นผู้ใช้งานสามารถเลือกใช้งานรูปแบบการรับฟังเสียงได้ตามต้องการ ที่มีไดรเวอร์ขนาด 11 มม. ช่วยเสริมสร้างความชัดเจนและความลึกของเสียงที่ออกมา และยังมีระบบ Dolby Atmos ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการสร้างเสียงที่มีความละเอียดและเข้ากันได้ดีกับตัวเครื่อง
9. Bose Sport Earbuds Wireless
- ใช้การเชื่อมต่อผ่านทาง Bluetooth 5.1
- สามารถใช้งานได้นานสูงสุด 5 ชั่วโมงต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง
- จุกหูฟัง StayHear Max ที่ออกแบบให้สวมใส่สบาย แต่กระชับ ไม่หลุด
- ช่วยกันเสียงรบกวนจากภายนอกได้เป็นอย่างดี
- ไมโครโฟนรับเสียงได้อย่างคมชัด
- ควบคุมสะดวกด้วยปลายนิ้วสัมผัส
- กันน้ำ กันเหงื่อ มาตรฐาน IPX4
หูฟัง Bose Sport Earbuds Wireless เป็นหูฟังไร้สายที่ออกแบบมาเพื่อใช้งานร่วมกับกิจกรรมกีฬาหรือการออกกำลังกาย เนื่องจากมีการออกแบบที่สวมใส่ได้มั่นคงและไม่หลุดจากหูง่ายๆ แม้ว่าจะมีการเคลื่อนไหวหรือวิ่งอย่างรุนแรงก็ยังไม่ต้องกลัวว่าหูฟังจะหลุดหูไปด้วย เสียงของหูฟัง มีคุณภาพเยี่ยม สามารถแสดงผลเสียงที่คมชัดและดีเยี่ยมได้อย่างชัดเจน มีการเข้ากันได้ดีกับทุกแนวเสียง เรียกได้ว่าเป็นหูฟังที่เหมาะสำหรับคนที่ต้องการความสมดุลของเสียง มีการออกแบบให้เหมาะสมกับการใช้งานกีฬาและการออกกำลังกาย มีความทนทานต่อการเปียกน้ำและเหงื่อ และมีการควบคุมสัมผัสที่เหมาะสม มีการใช้งานได้นานถึง 5 ชั่วโมง และสามารถชาร์จได้ด้วยที่ชาร์จในกล่องของหูฟังได้เลย
10. SoundPeats Air4 Pro
- Bluetooth 5.2
- Hybrid Drivers : 8mm Dynamic Driver
- รองรับ Game Mode ดีเลย์ต่ำสุดถึง 60ms
- 4 Mics with CVC 8.0 noise cancellation
- ใช้งานหูฟังต่อเนื่อง : ≥ 5 ชั่วโมง ที่ความดัง 50% เคสชาร์จเพิ่มได้อีก 11 ชั่วโมง รวมเป็น 16 ชั่วโมง
- หูฟังมีน้ำหนักข้างละ : 5g
- กันน้ำมาตรฐาน IPX4
- เครื่องยนต์4จังหวะ โอเวอร์เฮดแคมชาร์ป ระบายความร้อนด้วยอากาศ
SoundPEATS Air4 Pro เป็นหูฟังไร้สายที่มาพร้อมกับเทคโนโลยี Bluetooth 5.3 และฟังก์ชันการตัดเสียงรบกวน (ANC) ที่สามารถลดเสียงรบกวนได้สูงสุดถึง 45dB ช่วยให้ผู้ใช้ได้รับประสบการณ์ฟังเพลงหรือการสนทนาที่คมชัดและสงบมากขึ้น โดยไม่ถูกรบกวนจากเสียงภายนอก มีดีไซน์ที่บางและเบา สวมใส่สบายตลอดวัน และมีความทนทานสูง รวมถึงรองรับการเชื่อมต่อที่เสถียรและลดการดีเลย์ระหว่างการใช้งาน นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับคุณภาพเสียงที่ดีเยี่ยม เหมาะสำหรับการฟังเพลงที่มีรายละเอียดสูงและการใช้งานในหลากหลายสถานการณ์
หูฟังบลูทูธ ยอดนิยม ขายดี - ก.ค. 66
1. หูฟังบลูทูธ หูฟังสเตอริโอ หูฟังไร้สาย แยกเสียงซ้ายขวา TWS Wireless bluetooth 5.0 headset Earphone Earbud รุ่น F9
2. Edifier X2s หูฟังไร้สายบลูทูธเวอร์ชัน 5.3 ตัดเสียงรบกวนการโทรด้วย AI กันน้ำระดับ IP54 และโหมดเกมสูงสุด 26 ชั่วโมง
3. Lenovo LP40 PRO หูฟัง TWS หูฟังบลูทูธ ไร้สายบลูทูธ 5.1 เวอร์ชันใหม่ LP40 พร้อมไมค์ IPX5
4. Remax TWS-19 หูฟังบลูทูธ Bluetooth 5.3 หูฟังสเตอริโอในหูแบบครึ่งตัวหูฟังไร้สาย Bluetooth Gaming หูฟังพร้อมกล่องชาร์จ
5. หูฟังไร้สาย หูฟังสเตอริโอ หูฟังบลูทูธ TWS Wireless bluetooth ปุ่มสัมผัส ใช้เป็นพาวเวอร์แบงค์ฉุกเฉิน แถมกระเป๋า
วิธีการเลือกซื้อ หูฟังบลูทูธ ต้องคำนึงถึงอะไรบ้าง
หูฟัง เป็นแก็ตเจ็ทที่แทบทุกคนจะต้องมีเพราะนอกจากจะเป็นอุปกรณ์ที่จะมอบความบันเทิงก็ยังต้องใช้ในการทำงาน การประชุมออนไลน์ การเรียนออนไลน์ นับเป็นไอเท็มที่ขาดไม่ได้สำหรับ ไลฟ์สไตล์ของคนในยุคปัจจุบันซึ่งด้วยเทคโนโลยีที่ก้าวไกลหูฟังที่ได้รับความนิยมมากๆก็จะเป็น หูฟังบลูทูธ หรือหูฟังไร้สาย เพราะสามารถใช้งานได้สะดวกและพกพาง่าย และยังปลอดภัยในการขับขี่บนท้องถนน ไม่ต้องเสียบสายให้ยุ่งยาก การเลือกซื้อหูฟัง บลูทูธ ก็ควรคำนึงถึงการใช้งานของเราเป็นหลัก เช่นจะใช้ในการออกกำลังกายก็ควรเลือกหูฟังที่กันน้ำ และ กระชับกับหูเพื่อไม่ให้หลุดออกจากหูในขณะออกกำลังกาย หรือถ้าใครจะใช้การดูหนัง ฟังเพลง หรือให้ความบันเทิงก็ควรเลือกหูฟังที่มีเสียงเบสดี เอาคุณภาพของเสียงเป็นหลัก ถ้าเป็นนักธุรกิจที่ต้องประชุมงานบ่อยๆก็ควรเลือกหูฟังบลทูธที่สามารถตัดเสียงรบกวนได้ดีนอกจากเครื่องคุณภาพแล้วอาจจะต้องคำนึงถึงเงินในกระเป๋าด้วยเช่นเดียวกัน ดังนั้นควรเลือกหูฟังบลูทูธที่เหมาะสมสำหรับเนื่องจากในท้องตลาดบ้านเรามีหูฟังบลูทูธที่หลากหลายรูปแบบและคุณสมบัติต่างๆไปดูขั้นตอนที่ควรพิจารณาเพื่อช่วยคุณในการเลือกหูฟังบลูทูธที่เหมาะสมดังต่อไปนี้
- ความสะดวกสบายและการพกพา : เลือกหูฟังที่มีความเบาสบายและพกพาง่าย เพื่อให้คุณสามารถใช้งานได้ตลอดเวลาควรทดสอบการใส่หูฟังเพื่อดูว่ามีความพอดีกับรูปร่างหูและรูปแบบการใช้งานของคุณหรือไม่
- คุณภาพเสียง: คุณภาพเสียงเป็นสิ่งสำคัญในการเลือกหูฟัง คุณควรทดลองฟังก่อนซื้อหากเป็นไปได้ ฟังเสียงตัวอย่างเพื่อตรวจสอบว่ามีคุณภาพที่ตรงตามความต้องการของคุณหรือไม่ อย่าลืมให้ความสำคัญกับระบบเสียงเสมือนจริงหรือระบบตัดเสียงรบกวนที่อาจมีอยู่ในหูฟังบลูทูธบางรุ่น
- อายุแบตเตอรี่: ความยาวของอายุแบตเตอรี่เป็นสิ่งสำคัญที่ต้องพิจารณา เลือกหูฟังที่มีอายุแบตเตอรี่ที่เพียงพอต่อการใช้งานของคุณ เช่น หูฟังที่มีอายุแบตเตอรี่ยาวนานกว่า 8-10 ชั่วโมงอาจเหมาะสำหรับคุณที่ใช้งานตลอดวัน
- ข้อมูลเชิงเทคนิค: อ่านรายละเอียดเกี่ยวกับสเปกเทคนิคของหูฟัง เช่น ระบบตัดเสียงรบกวน เทคโนโลยีเสียง เป็นต้น คุณควรเลือกหูฟังที่มีคุณสมบัติที่ตรงกับการใช้งานและสภาพแวดล้อมที่คุณต้องการใช้งาน
- งบประมาณ: กำหนดงบประมาณที่คุณพร้อมจ่ายได้สำหรับหูฟังบลูทูธ ตรวจสอบราคาและคุณภาพเสียงเพื่อให้แน่ใจว่าคุณได้รับคุณค่าที่ดีสำหรับเงินที่คุณใช้ในการซื้อหูฟัง
- รีวิวและความเห็นของผู้ใช้งาน: อ่านรีวิวและความเห็นจากผู้ใช้งานอื่นๆ เพื่อรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับคุณภาพและประสบการณ์การใช้งานจริง การแบ่งปันประสบการณ์จากผู้ใช้จริงอาจช่วยให้คุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้น