10 อันดับ รองพื้นกันน้ำ ยี่ห้อไหนดี

✅ ข้อดีของรองพื้นกันน้ำ (Waterproof Foundation)

  1. ติดทนนานตลอดวัน
    ไม่ต้องเติมระหว่างวันบ่อย เหมาะกับคนที่มีไลฟ์สไตล์แอคทีฟ หรือทำงานกลางแจ้ง

  2. ทนเหงื่อ ทนน้ำ
    เหมาะกับอากาศร้อนหรือกิจกรรมที่มีเหงื่อเยอะ เช่น เล่นกีฬา หรือออกงานกลางแจ้ง

  3. ไม่หลุดง่ายแม้เจอสภาพอากาศชื้น
    อยู่ทนแม้เจอฝนหรืออยู่ในที่ที่มีความชื้นสูง เช่น เดินห้าง หรือสถานที่ปิดที่ไม่มีแอร์แรง

  4. เหมาะสำหรับการแต่งหน้าไปงานพิเศษ
    เช่น งานแต่ง งานรับปริญญา หรืองานที่ต้องการความเป๊ะนานๆ

  5. กันความมันได้ดี
    หลายสูตรจะควบคุมความมัน ทำให้หน้าไม่เยิ้มง่าย

  6. ถ่ายรูปออกมาสวย
    พื้นผิวหน้าจะดูแมตต์หรือกึ่งแมตต์ ไม่สะท้อนแฟลชง่าย

10 อันดับ รองพื้นกันน้ํา ยี่ห้อไหนดี

1

Maybelline Superstay Lumi - Matte Foundation

2

L'Oréal Paris Infallible Matte Cover

3

Revlon ColorStay Longwear Makeup

4

4U2 Pro Skin Longwear Foundation

5

Cute Press Evory Snow Ultralight Foundation

6

KMA รองพื้นคุมมัน กันแดด SPF30 WATER RESIST

7

BEAUTILAB A2P Semi-Matte Long Lasting Coverage Foundation

8

RAN Airy Tint Magic Foundation รองพื้นน้ำแร่

9

SRICHAND Super Coverage Always Matte Foundation

10

Music Flower Photo Genic รองพื้นกันน้ำ คุมมัน

รองพื้นกันน้ํา ยอดนิยม ขายดี - ประจำเดือน

แบรนด์ดัง รองพื้นกันน้ํา ยอดนิยม

คำแนะนำในการเลือกซื้อ รองพื้นกันน้ํา

🛍️ วิธีเลือกซื้อรองพื้นกันน้ำ

1. รู้จักสภาพผิวของตัวเองก่อน

  • ผิวมัน → เลือกสูตร แมตต์ (Matte) หรือควบคุมความมัน (Oil-Control)

  • ผิวแห้ง → มองหาสูตรที่ให้ความชุ่มชื้น หรือ Dewy Finish

  • ผิวผสม → รองพื้นสูตรบาลานซ์ ระหว่างแมตต์กับชุ่มชื้น

  • ผิวแพ้ง่าย → เลือกแบบ ปราศจากน้ำหอม / แอลกอฮอล์ / พาราเบน


2. ดูความปกปิดที่ต้องการ

  • ปกปิดบางเบา (Light coverage) → สำหรับลุคธรรมชาติ

  • ปานกลางถึงเต็ม (Medium – Full coverage) → สำหรับออกงาน หรือมีรอยที่อยากปิด


3. เลือกเฉดสีให้ตรงกับผิว

  • ทดลองที่กรามหรือคอ จะได้สีที่เข้ากับทั้งใบหน้าและลำคอ

  • สังเกต อันเดอร์โทนผิว:

    • โทนเหลือง (Warm) → รองพื้นที่ออกเหลือง

    • โทนชมพู (Cool) → รองพื้นที่ออกชมพู

    • โทนกลาง (Neutral) → รองพื้นที่ไม่เหลืองไม่ชมพู


4. ดูคำว่า “Waterproof” หรือ “Long-wear” บนแพ็กเกจ

  • คำว่า “Sweat-proof”, “Humidity-resistant”, “Long-lasting” ก็บ่งบอกว่าเหมาะกับสภาพอากาศร้อน


5. ลองเทสต์ก่อนซื้อ (ถ้าเป็นไปได้)

  • ทาลงผิวแล้วรอซัก 5–10 นาที ดูว่าเปลี่ยนสีไหม (บางแบรนด์มี oxidize)

  • ลองฉีดน้ำ หรือซับเหงื่อเบาๆ ดูว่ายังติดดีไหม


6. เช็กรีวิวออนไลน์หรือจากคนที่ผิวคล้ายเรา

  • จะช่วยกรองแบรนด์ที่คนผิวแบบเราชอบใช้จริง

  • เช่น รีวิวจาก Youtuber, Blogger หรือ Tiktok